ปรับมุมมองเพื่อให้เห็นทุกโอกาสกับบทเรียนสุดพิเศษจาก Five Star Class วันนี้เราได้นำบทเรียนจากประสบการณ์จริงของนักธุรกิจห้าดาว ผู้ที่เปลี่ยนมุมมองกับวิธีการเพื่อไปถึงฝัน และได้เจอกับตัวเลือกที่พาไปถึงฝันได้เร็วกว่า หากเตรียมสมุด ปากกา พร้อมแล้ว แล้วเรามาเริ่มคลาสกันได้เลย
ทุกคนต่างมีความฝันที่อยากจะไปให้ถึงกันทั้งนั้น แต่วิธีการและตัวเลือกของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าใครจะได้พบโอกาสและเลือกไปในเส้นทางที่พาไปสู่ฝันได้ไวกว่า
เหมือนกับเรื่องราวของคุณ ‘ภิรนันท์ ภูมิศิริ’ อดีตพนักงานโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ที่เลือกเปลี่ยนมุมมองใหม่หลังจากถูกจ้างออกจากงาน คุณภิรนันท์ตัดสินใจที่จะไม่กลับไปทำอะไรแบบเดิม ๆ อย่างงานโรงงาน และมาลงทุนกับแบรนด์ห้าดาว
คุณภิรนันท์ได้เล่าว่า ก่อนที่จะมาทำธุรกิจห้าดาวเธอทำงานโรงงานมาก่อน ซึ่งงานโรงงานเธอสามารถเพิ่มรายได้จากการทำโอที หากกลับไปพักผ่อนก็จะเสียโอกาสจากรายได้เหล่านั้น เธออยากเก็บเงินได้มาก ๆ เพื่ออนาคตจะได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแล้วพาลูกมาอยู่ด้วยกัน
“คือพี่เคยทำงานโรงงานผลิตพวกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ งานโรงงานมันมีช่องทางทำเงินให้เราได้นะ เพราะว่ามันมีโอทีให้ทำ พี่ก็จะทำตลอด เพราะเราวางแผนด้วยแหละว่าอยากจะเก็บเงินเยอะ ๆ แต่เมื่อปีที่แล้วพี่ถูกจ้างออก เพราะเขาเปลี่ยนการบริหาร โรงงานเลยไล่ปลดพนักงานประจำออก พี่ก็เลยตกงานแบบกะทันหัน”
คุณภิรนันท์เป็นอีกคนที่ทำงานประจำอย่างขยันขันแข็ง เพราะหวังที่จะประสบความสำเร็จตามฝันที่เธอตั้งไว้ แต่เมื่อโรงงานของเธอได้มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารจึงส่งผลให้คุณภิรนันท์ถูกจ้างออกจากงานแบบไม่ทันตั้งตัว
จากที่เคยทำแต่งานประจำมาโดยตลอด จึงทำให้เธอยังคงมองหางานแบบเดิม แต่ด้วยยุควิกฤตที่ทุกกิจการต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้คุณภิรนันท์ยิ่งหางานยากขึ้น แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณภิรนันท์ได้มองเห็นช่องทางใหม่ที่จะพาไปถึงเป้าหมายที่เธอวางไว้
“พี่ไปเดินหางาน เดินจนเหนื่อยก็เลยแวะกินก๋วยเตี๋ยวที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่นั่งกินก็มองไปรอบ ๆ เลยมีความคิดว่าทำไมเราไม่ลองขายอะไรในปั๊มดูล่ะก็ลองถามเขาว่าถ้าจะขายน้ำจะต้องทำอย่างไร เขาก็บอกว่าขายไม่ได้ลองขายของกินอย่างอื่นดูดีกว่าไหม”
เมื่อเห็นช่องทางใหม่คุณภิรนันท์ จึงกลับมานั่งคิดว่าจะต้องทำอย่างไรหรืออะไร ที่จะสามารถต่อยอดให้กับความคิดนี้ได้
“ตอนนั้นพี่งงตัวเองเลยแหละก็เลยกลับไปคิดว่าจะขายอะไร แต่แบบไม่รู้โชคหรือดวงอะไร พอดีพี่ดูทีวีแล้วปรากฏเจอโฆษณาของแบรนด์ห้าดาว เท่านั้นแหละวันรุ่งขึ้นก็เลยโทรติดต่อเซลของเขาเลย”
อาจจะไม่คุ้นเคยเหมือนกับงานประจำที่ทำมาก่อน แต่คุณภิรนันท์เลือกที่จะคว้าโอกาสและได้ตัดสินใจลงทุนกับธุรกิจห้าดาว โดยเริ่มจากการเปิดร้านเล็ก ๆ อยู่ที่ปั๊ม ปตท.อุทัย ปัจจุบันคุณภิรนันท์ได้เปิดร้านห้าดาวมาได้ 1 ปีแล้ว
ด้วยระบบจัดการของแบรนด์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในทุกด้าน ทำให้คุณภิรนันท์ไม่ต้องเหนื่อยเรื่องบริหารจัดการ แล้วยังสามารถสร้างรายได้มากกว่าตอนทำงานโรงงานที่ต้องอยู่เกินเวลาเพื่อทำโอที
“ตอนนี้พี่ก็เปิดร้านตีห้าครึ่งพอมืดขายหมดก็กลับ มันสบายต่างกันเยอะเลยเพราะตอนนี้พี่สามารถที่จะหิวก็กิน ตื่นเป็นเวลา
นอนเต็มอิ่ม สุขภาพพี่เนี่ยดีขึ้นเยอะเลย เราเคยว่าการทำงานแบบเดิมไปเรื่อย ๆ จะเป็นทางเดียวที่ทำให้เรามีเงินเก็บ แต่มาวันหนึ่งเราก็ได้รู้ว่ามันมีอีกหลายทางที่จะทำให้เราไปถึงฝันได้เร็วขึ้น อยู่ที่ว่าเราจะหามันเจอหรือเปล่า”
กล่าวได้ว่าธุรกิจห้าดาวเป็นอีกทางหนึ่งของการลงทุนที่ช่วยสนับสนุนผู้ลงทุนได้ทุกด้าน มีการฝึกอบรมด้านการขายและบริการ ให้กับผู้ลงทุน และยังมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกช่องทางแบบต่อเนื่องทั้งทาง Facebook , Youtube และยังมีทีวีในเครืออย่าง True4U และ TNN ช่อง 16 เพื่อทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าของแบรนด์อยู่ตลอด จึงทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องเหนื่อยกับการขาย เพราะมีห้าดาวคอยช่วยอำนวยความสะดวกในทุกด้านให้อยู่ตลอด
การจะประสบความสำเร็จและไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้นั้นไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเดิม ๆ บางครั้งการมองหาสิ่งใหม่ที่ช่วยให้เราไปถึงความฝันได้เร็วขึ้น อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เหมือนที่คุณภิรนันท์ได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า
“มีหลายทางที่พาเราไปถึงฝันได้เร็วขึ้น อยู่ที่ว่าเราหามันเจอหรือเปล่า”
ปัจจุบันคุณภิรนันท์สามารถทำตามความฝันที่อยากให้ลูกมาอยู่ด้วยกันสำเร็จ แถมยังบอกอีกว่า
“อย่าหาว่าพี่คุยนะ พอมาขายห้าดาวเนี่ย พี่ดาวน์รถเก๋งป้ายแดงนะจ๊ะ”