แฟรนไชส์อาหารทางเลือกลงทุนของคนยุคใหม่

แฟรนไชส์อาหารทางเลือกลงทุนของคนยุคใหม่

ภาวะที่เศรษฐกิจไทย และโลกอยู่ในช่วงเวลาพิเศษเช่นนี้ การลงทุนต้องรอบคอบระมัดระวังเป็นพิเศษ การเลือกลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์อาหารนั้นเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะอาหารคือความจำเป็นในชีวิตที่ขาดไม่ได้ การเลือกลงทุนกับธุรกิจอาหารที่ได้มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ จึงมีความสำคัญมากสำหรับยุคนี้

“เต้ย กุลวัฏ แซ่จึง” นักธุรกิจรุ่นใหม่วัย 28 ปี ได้ตัดสินใจเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ของแบรนด์ 5 ดาว ด้วยเหตุผลที่พิสูจน์แล้ว ว่าในเวลาเพียงไม่ถึง 1 ปี เขาสามารถเปิดสาขาไปแล้วมากถึง 5 สาขา เต้ยได้ฝากแง่คิดไว้ให้ว่า “ไม่มีอะไรยากถ้าเรามุ่งมั่น ขยัน และกระตือรือร้นที่จะรวยตั้งแต่หนุ่ม ๆ”

 

 

ก่อนจะมาลงทุนกับ 5 ดาว เต้ยทำงานด้านการจัดซื้อ  วางแผนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพราะเรียนมาทางด้าน การจัดการโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยได้รับเงินเดือนเกือบ 30,000 บาท ซึ่งไม่น้อยเลยสำหรับเด็กจบใหม่ แต่สำหรับเต้ยเขาเชื่อว่าสามารถทำได้มากกว่านั้น หากคิดจะรวย และเป็นเถ้าแก่ตั้งแต่วัยหนุ่ม เต้ยจึงคิดเล่น ๆ ว่าถ้าอยากมีเงินเดือนถึง 100,000 บาท ในอาชีพเดิมจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี เต้ยจึงหารายได้เสริมจากการทำร้านขายของด้วยตัวเอง

“เริ่มแรกก็ไปขายปลาหมึกครับ ทำปลาหมึกแล้วส่งขาย เป็นปลาหมึกปิ้งเนี่ยแหละครับ ตอนนั้นมีสองสาขา พอเรามาขายจริงมันค่อนข้างขยายสาขายาก โตยากครับ ท่าทางจะรวยอย่างที่คิดไว้ยาก เลยตัดสินใจเลิกครับ”

เมื่อการขายอาหารไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เต้ยจึงหาข้อมูลจากสื่อออนไลน์ว่ามีแฟรนไชส์อะไรที่น่าเชื่อถือ น่าลงทุนเหมาะสำหรับคนที่เงินทุนน้อยแบบเขา โดยเน้นว่า “เงินทุนน้อย” แต่ “มั่นคง” และได้พบกับ “แฟรนไชส์ 5 ดาว”

 

 

เต้ยได้เปิดเผยความคิดก่อนตัดสินใจเลือกลุยเพื่อก้าวสู่การเป็นเถ้าแก่กับ 5 ดาว ว่า

“คืออย่างแรก ในธุรกิจ 5 ดาว ใช้เงินลงทุนค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น ทำให้เราสามารถขยายสาขาได้ง่าย แล้วเริ่มได้ง่ายครับ

“ข้อที่สอง คือชื่อเสียงของทาง 5 ดาว แน่นอนว่า 5 ดาวเปิดมา 30 ปี ก็ยังอยู่ได้ใช้ไหมครับ ในอนาคตก็คิดว่าน่าจะอยู่ได้ และโตต่อไปได้อีก”

เต้ยบอกว่าคุ้นเคยแบรนด์นี้อยู่แล้ว เพราะเขาเองก็รับประทาน 5 ดาวมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ใช้เงินสะสมก้อนแรก 50,000 บาท มาลงทุน

“หลังจากที่ผมเปิดสาขาแรก ขายไปได้แค่เดือนเดียว รู้สึกว่ายอดขายปังมากก็เลยเร่งเปิดสาขาสองต่อเลย เริ่มจากชานมไข่มุกที่กัลปพฤกษ์ แล้วตามด้วยชานมไข่มุกที่แม็คโครบางบอน และ 5 ดาว เป็นสาขาที่สามที่แม็คโครบางบอน เราเป็นคนที่ทุนไม่ค่อยมาก พอเราเปิดสามสาขาแรกไปได้ เราก็เอากำไรจากส่วนนี้ หมุนเข้ามาเปิดสาขาที่สี่ และสาขาที่ห้าต่อเลย”

พลังแห่งวัยหนุ่มทำให้เต้ยเดินหน้าต่ออย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียง 9 เดือน เต้ยขยายไปได้ถึง 5 สาขา เมื่อถามว่า เป้าหมายรายได้เดือนละ 100,000 บาท ตอนนี้เข้าเป้าแล้วหรือยัง เต้ยยิ้มรับและตอบว่า

“ง่ายกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยครับ รายได้ตรงตามเป้าจริง ๆ”

 

 

การทำให้ร้านมียอดขายปังตามที่เต้ยบอก สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องอร่อย สะอาด รักษาคุณภาพที่ดี มีเมนูหลากหลาย ตามที่ลูกค้าต้องการ และเมนูที่หลากหลายของทาง 5 ดาว ก็ช่วยทำให้เขาขายได้ง่ายขึ้น เต้ยบอกอีกว่า

 

“เราอาจจะเห็นว่าร้าน 5 ดาว มีแค่ไก่ย่าง ไก่จ๊ออะไรแบบนี้ใช่ไหมครับ แต่ว่าปัจจุบันนี้มีเมนูอาหารค่อนข้างหลากหลาย นอกจากไก่ย่าง ไก่จ๊อ ยังมีไก่ทอด ยังมีไก่ป๊อป มีนักเก็ต มีเฟรนช์ฟรายส์ และก็มีเบอร์เกอร์ด้วยครับ พอมีหลากหลายเมนูก็ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย ทำให้ขายได้ง่ายขึ้นกว่า เมื่อก่อนเยอะเลยครับ”

การลงทุนขายอาหารในยุคปัจจุบัน การทำโฆษณาออนไลน์ และการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ มีความสำคัญมาก
แบรนด์ 5 ดาว ให้การสนับสนุนในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง ทุกสื่อ ช่วยให้ผู้บริโภคทั่วประเทศรู้จักสินค้า 5 ดาว เพราะมีการโฆษณาผ่านทุกช่องทางที่บริษัทจัดทำขึ้นทั้ง เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, ไลน์ นอกจากนั้น
แบรนด์ 5 ดาว ยังช่วยติดต่อผู้ให้บริการ Food Delivery อย่าง GET และ Grab เพื่อเพิ่มช่องทางการค้าให้เถ้าแก่ที่เข้ามาทำธุรกิจกับบริษัทด้วย

ทั้งหมดนี้คือการสนับสนุนจากแฟรนไชส์ 5 ดาว ที่จะช่วยให้เถ้าแก่อย่างเต้ย เติบโตและก้าวสู่ความฝันที่อยากจะรวยตั้งแต่หนุ่ม ๆ ได้อย่างมั่นคง

 

 

จากมุมมองของเถ้าแก่วัย 28 ปี เต้ยได้บอกเคล็ดลับความสำเร็จเอาไว้ว่า “อย่างแรกเลยนะครับการที่เราจะเริ่มทำอะไรได้เราต้องกล้าก่อนครับ ถ้าเราคิดแต่เราไม่ได้ลงมือทำมันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างที่สองเราต้องมีใจที่จะรวยพอเราอยากจะรวยเราก็จะกระตือรือร้นที่จะขาย ที่จะขยายสาขาต่อครับ”

สำหรับ “เต้ย กุลวัฎ แซ่จึง” วางแผนไว้ว่า เขาจะเปิด 5 ดาวให้ได้ 10 สาขา ภายในเร็ววัน เขาเชื่อว่าเขาทำได้ เพราะมี 5 ดาวคอยช่วยสนับสนุน และเดินไปพร้อมกับเขา เต้ยเชื่อว่า “คนที่จะชนะได้ ก็คือคนที่พยายามมากกว่า คนที่ยอมแพ้ครับผม”